
ไอเทมดูแลผิวสำหรับเที่ยวบินระยะยาว เคล็ดลับผิวสวยเมื่อเดินทาง
มีนาคม 29, 2025
การพักผ่อนเพื่อผิวสวย เคล็ดลับที่สาววัย 30+ ต้องรู้ !
เมษายน 5, 2025เป็นเรื่องปกติที่ผิวของเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยคือผิวแห้งจากอายุที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณแรกๆ ที่บ่งบอกถึงวัยที่เพิ่มขึ้น การเข้าใจถึงสาเหตุของผิวแห้งตามวัยและวิธีการดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยและรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน
บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลผิวแห้งในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป วิธีฟื้นฟูความชุ่มชื้น และเทคนิคการป้องกันริ้วรอยแห่งวัยที่มีประสิทธิภาพ โดยอิงจากความรู้ด้านเวชสำอางที่ได้รับการพิสูจน์แล้วด้วยกันค่ะ
หัวข้อเนื้อหา
เข้าใจสาเหตุของผิวแห้งตามวัย
ผิวแห้งจากอายุไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะเมื่อเราอายุ 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจน อิลาสตินและสารสำคัญอื่นๆ ลดลง ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้น
การลดลงของไขมันธรรมชาติบนผิวเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันความชุ่มชื้นของผิวที่เริ่มมีรอยรั่ว ทำให้น้ำระเหยออกจากผิวได้ง่ายขึ้น การสูญเสียน้ำจากผิวหนังหรือที่เรียกว่าภาวะผิวขาดน้ำนี้เองที่ทำให้ผิวดูหยาบกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
ปัจจัยภายนอกที่เร่งให้ผิวแห้งเร็วขึ้น ได้แก่
- สภาพอากาศที่แห้ง ร้อน หรือเย็นจัด
- การสัมผัสรังสี UV เป็นเวลานาน
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารทำความสะอาดที่รุนแรง
- การอาบน้ำด้วยน้ำร้อนจัด
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
เมื่อเข้าใจสาเหตุแล้ว เราจะมาดูวิธีแก้ปัญหาผิวแห้งตามวัยอย่างตรงจุดกันค่ะ
สร้างความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งด้วยสารสำคัญ
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผิวแห้งตามวัย สารสำคัญที่ควรมองหาในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีดังนี้
ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid)
ไฮยาลูรอนิกเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ทำหน้าที่อุ้มน้ำและเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว โดยไฮยาลูรอนิกหนึ่งโมเลกุลสามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักตัวเอง เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างมาก
เราสามารถเลือกใช้ไฮยาลูรอนิกในรูปแบบเซรั่ม ครีม หรือมาสก์ โดยควรใช้หลังล้างหน้าบนผิวที่ยังมีความชื้นเล็กน้อย และตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ทันที เพื่อเคลือบล็อคความชุ่มชื้นเอาไว้
เซราไมด์ (Ceramides)
เซราไมด์เป็นไขมันธรรมชาติที่อยู่ในชั้นผิวหนัง ทำหน้าที่เสมือนปูนซีเมนต์ที่เชื่อมเซลล์ผิวเข้าด้วยกัน ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและป้องกันการสูญเสียน้ำ เมื่ออายุมากขึ้น ระดับเซราไมด์ในผิวจะลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้านและเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์จะช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น อุ้มน้ำได้ดีขึ้น และต้านทานต่อสารระคายเคืองจากภายนอกได้ดีขึ้น
กลีเซอรีน (Glycerin)

กลีเซอรีนเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีคุณสมบัติดึงน้ำจากชั้นบรรยากาศมาสู่ผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวคุณภาพดีมักจะมีกลีเซอรีนเป็นส่วนประกอบ เพราะช่วยให้เนื้อครีมมีความนุ่มนวล ทาง่าย และซึมเข้าสู่ผิวได้ดี
สควาลีน (Squalene)
สควาลีนเป็นน้ำมันธรรมชาติที่พบในผิวของเรา ช่วยเสริมสร้างชั้นไขมันที่ปกป้องผิว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เมื่ออายุมากขึ้น ระดับสควาลีนในผิวจะลดลง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสควาลีนจะช่วยทดแทนไขมันธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกมัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณจะช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราแนะนำให้ใช้เซรั่มก่อนครีมบำรุง เพื่อให้สารสำคัญซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ปรับเปลี่ยนรูทีนดูแลผิวแห้งตามวัย
การปรับเปลี่ยนขั้นตอนการดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวที่เปลี่ยนไปตามวัยเป็นสิ่งสำคัญมาก รูทีนการดูแลผิวแห้งที่มีประสิทธิภาพควรมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
การทำความสะอาด
เลือกใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ไม่มีสบู่ (soap-free) และไม่มีแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมล้างหน้าหรือน้ำนมล้างหน้าจะช่วยทำความสะอาดได้ดีโดยไม่ทำลายน้ำมันธรรมชาติบนผิว
หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น และไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป สำหรับผิวแห้งมาก แนะนำให้ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เพียงวันละครั้งในตอนเย็น ส่วนตอนเช้าอาจใช้เพียงน้ำเปล่าหรือน้ำแร่เช็ดหน้าเบาๆ ก็เพียงพอ

การโทนเนอร์
เลือกโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น (hydrating toner) โทนเนอร์ประเภทนี้จะช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง พร้อมเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
การบำรุงด้วยเซรั่ม
เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงสูง จึงช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด สำหรับผิวแห้งตามวัย ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิก เพปไทด์ หรือวิตามินบี 5 (แพนเทนอล) ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวได้อย่างมาก
การใช้เซรั่มหลายชนิดสลับกันในแต่ละวันก็เป็นอีกวิธีที่ดี เช่น ใช้เซรั่มวิตามินซีในตอนเช้าเพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด และใช้เซรั่มไฮยาลูรอนิกหรือเรตินอลในตอนกลางคืนเพื่อฟื้นฟูผิว

การบำรุงด้วยครีม
ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้งควรมีเนื้อครีมที่เข้มข้น อุดมไปด้วยสารให้ความชุ่มชื้นและสารเคลือบผิว (emollients และ occlusives) ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว
ในตอนกลางวัน ควรเลือกครีมที่มี SPF เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของผิวแห้งและริ้วรอยก่อนวัย ส่วนในตอนกลางคืน ควรเลือกครีมที่มีความเข้มข้นสูงกว่า เพื่อฟื้นฟูผิวระหว่างที่คุณนอนหลับ
การบำรุงพิเศษด้วยมาสก์
การใช้มาสก์หน้าบำรุงความชุ่มชื้น 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเข้มข้น เลือกมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น มาสก์แผ่นที่ชุ่มด้วยเซรั่มไฮยาลูรอนิก หรือสลีปปิ้งมาสก์ที่สามารถทิ้งไว้ได้ตลอดคืน
การใช้มาสก์หลังการขัดผิว (exfoliation) จะช่วยให้ผิวดูดซึมสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้ขัดผิวบ่อยเกินไป สำหรับผิวแห้ง แนะนำให้ขัดผิวเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น

ปรับอาหารและการดื่มน้ำเพื่อผิวชุ่มชื้น
การดูแลผิวแห้งจากภายในร่างกายมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการบำรุงผิวจากภายนอก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
ควรรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาแซลมอน น้ำมันมะกอก ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ กรดไขมันเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและลดการอักเสบ
ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน บรอกโคลี จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวยืดหยุ่นและชุ่มชื้น ขณะที่อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด จะช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ
การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเป็นพื้นฐานสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว คุณสามารถเพิ่มรสชาติให้กับน้ำด้วยการแช่ผลไม้ เช่น แตงกวา เบอร์รี่ หรือมะนาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มวิตามินให้กับน้ำดื่มและทำให้อยากดื่มมากขึ้น
การจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น

ป้องกันและฟื้นฟูผิวแห้งตามฤดูกาล
สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละฤดูกาลมีผลต่อความชุ่มชื้นของผิวอย่างมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาวหรือฤดูร้อนที่อากาศแห้ง การปรับเปลี่ยนการดูแลผิวตามฤดูกาลจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งปี
ฤดูร้อน
แม้ว่าฤดูร้อนจะมีความชื้นในอากาศสูง แต่การสัมผัสกับแสงแดดและการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย ในฤดูนี้ควร
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน แม้อยู่ในร่ม
- ทาครีมบำรุงที่มีเนื้อบางเบากว่าปกติ แต่ยังคงให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ
- เพิ่มการใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดพ่นระหว่างวันเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำนานเกินไปและลดอุณหภูมิของน้ำให้เย็นลง
ฤดูหนาว
ในฤดูหนาวหรือช่วงที่อากาศแห้ง ความชื้นในอากาศจะลดลงอย่างมาก ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่าย ควรปรับการดูแลผิวดังนี้
- เปลี่ยนมาใช้คลีนเซอร์ที่มีความเข้มข้นของครีมมากขึ้น
- ใช้ครีมบำรุงที่มีเนื้อเข้มข้นขึ้นและทาบ่อยครั้งมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด ซึ่งจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง
- ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (humidifier) ในห้องนอนหรือห้องที่คุณใช้เวลาอยู่นานๆ
- ใช้ลิปบาล์มเพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งแตก
การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และวิธีการดูแลผิวตามฤดูกาลอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผิวของคุณไม่แห้งกร้าน แม้ในสภาพอากาศที่ท้าทายที่สุดค่ะ

การดูแลผิวแห้งในแต่ละช่วงวัย
ผิวแห้งจากอายุมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย การเข้าใจความต้องการของผิวในช่วงอายุต่างๆ จะช่วยให้คุณเลือกวิธีการดูแลได้อย่างเหมาะสม
ช่วงอายุ 30-35 ปี
ในช่วงนี้ ผิวเริ่มผลิตน้ำมันธรรมชาติลดลง แต่ยังไม่แห้งมาก ปัญหาหลักที่พบคือความชุ่มชื้นไม่สม่ำเสมอ บางจุดมัน บางจุดแห้ง การดูแลควรเน้นที่
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นดี เช่น เจลครีมหรือโลชั่น
- เริ่มใช้เซรั่มไฮยาลูรอนิกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
- ใช้ครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากแสงแดด
- เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเพื่อป้องกันริ้วรอย
ช่วงอายุ 35-40 ปี
ในช่วงวัยนี้ ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวผลิตน้ำมันน้อยลงชัดเจน ริ้วรอยเล็กๆ เริ่มปรากฏ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ควรปรับการดูแลดังนี้
- เพิ่มความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เปลี่ยนจากโลชั่นเป็นครีม
- เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลหรือกรดผลไม้ในปริมาณต่ำ เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
- ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาโดยเฉพาะ
- เพิ่มความถี่ในการมาสก์หน้าเป็น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ช่วงอายุ 40-45 ปี
ในช่วงนี้ การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลงอย่างมาก ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่นชัดเจน ริ้วรอยปรากฏชัดเจนขึ้น การดูแลควรปรับเป็น
- ใช้ครีมบำรุงที่มีเนื้อเข้มข้นและอุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์
- เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเปปไทด์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ใช้ออยล์บำรุงผิวเพิ่มเติมในขั้นตอนก่อนทาครีม เช่น สควาลีน หรือน้ำมันอาร์แกน
- เพิ่มการทำทรีทเมนต์พิเศษ เช่น การนวดหน้าด้วยอุปกรณ์นวดหน้า (facial roller) เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
การปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลผิวตามช่วงวัยจะช่วยให้ผิวได้รับการบำรุงที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ทำให้สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยและรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

เทคนิคเสริมการดูแลผิวแห้งให้ชุ่มชื้นในระยะยาว
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมแล้ว ยังมีเทคนิคและวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว
จัดสภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมที่เราอยู่มีผลต่อความชุ่มชื้นของผิวอย่างมาก เราสามารถปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการรักษาความชุ่มชื้นของผิวได้ดังนี้
- ติดตั้งเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (humidifier) ในห้องที่ใช้เวลานานๆ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องปรับอากาศที่เย็นจัดเป็นเวลานาน
- ใช้ผ้าห่มและหมอนที่ทำจากใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ซึ่งจะไม่ดูดซับความชุ่มชื้นจากผิวระหว่างนอนหลับ
ทำสปาผิวที่บ้าน
การทำสปาผิวที่บ้านสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วยฟื้นฟูผิวแห้งได้อย่างมาก ลองทำตามขั้นตอนนี้
- ทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์อ่อนโยน
- นั่งในห้องที่มีไอน้ำอุ่น (steam) หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นวางบนใบหน้า 2-3 นาที เพื่อเปิดรูขุมขน
- ขัดผิวเบาๆ ด้วยสครับที่อ่อนโยน (สำหรับผิวแห้งมากอาจข้ามขั้นตอนนี้)
- พอกหน้าด้วยมาสก์เพิ่มความชุ่มชื้น 15-20 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยน้ำเย็น เพื่อกระชับรูขุมขน
- ทาเซรั่มและครีมบำรุงทันทีขณะที่ผิวยังชื้นอยู่

นวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียน
การนวดหน้าเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เซลล์ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ผิวแลดูสดใสและมีน้ำมีนวลมากขึ้น
คุณสามารถนวดหน้าด้วยมือหรือใช้อุปกรณ์ช่วยนวด เช่น หยกนวดหน้า (jade roller) หรือกัวซา (gua sha) โดยนวดในทิศทางขึ้นและออกจากใบหน้าเบาๆ วันละ 5-10 นาที หลังการทาเซรั่มหรือออยล์บำรุงผิว
พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูผิว เพราะร่างกายจะทำการซ่อมแซมเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจนในช่วงที่เรานอนหลับ การอดนอนหรือนอนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวแห้ง หมองคล้ำ และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
พยายามนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และนอนก่อนเที่ยงคืนเพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่เหมาะกับผิวแห้งตามวัย
เวชสำอาง (cosmeceuticals) เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างเครื่องสำอางและยา มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ที่ผ่านการวิจัยและพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิว สำหรับผิวแห้งตามวัย ควรมองหาผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มีคุณสมบัติดังนี้
สารต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี โคเอนไซม์ Q10 หรือสารสกัดจากชาเขียวจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวจากความเสียหาย และช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวยืดหยุ่นและชุ่มชื้น เมื่ออายุมากขึ้น การสร้างคอลลาเจนจะลดลง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (วิตามินเอ) เปปไทด์ หรือวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอยได้
สารเร่งการผลัดเซลล์ผิว
กระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติจะช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่เรียบเนียน ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ (AHA) เช่น กรดไกลโคลิก กรดแลคติก หรือกรดซาลิไซลิก (BHA) ในความเข้มข้นต่ำ จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มและรับการบำรุงได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับผิวแห้งมาก ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดเหล่านี้ในความเข้มข้นต่ำและใช้เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวแห้งมากขึ้น และควรใช้ครีมบำรุงตามทันทีหลังใช้
สารที่เลียนแบบธรรมชาติของผิว
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เลียนแบบปัจจัยความชุ่มชื้นธรรมชาติ (Natural Moisturizing Factor – NMF) ของผิว เช่น เซราไมด์ คอเลสเตอรอล และกรดไฮยาลูรอนิก จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำงานคล้ายกับสารที่ผิวผลิตเองตามธรรมชาติ

ผิวแห้งจากอายุที่มากขึ้น หยุดไม่ได้แต่ชะลอได้
การดูแลผิวแห้งจากอายุของเราที่มากขึ้นให้มีความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอย ไม่ใช่เรื่องยากหากเรารู้วิธีที่ถูกต้อง การเข้าใจสาเหตุของผิวแห้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนรูทีนการดูแลผิวตามสภาพอากาศและช่วงวัย รวมถึงการดูแลตัวเองจากภายในด้วยอาหารและการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน
ผิวแห้งตามวัยอาจเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล แต่ด้วยการดูแลที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ คุณจะสามารถฟื้นฟูความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิวได้ เริ่มต้นปรับเปลี่ยนการดูแลผิวตามคำแนะนำเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนค่ะ
Mewon Korean Cosmetics ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าเวชสำอางโดยโรงงานคุณภาพชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้มายาวนานกว่า 10 ปี ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการจัดหาเครื่องสำอางและเวชสำอางทุกชนิดจากเกาหลี สนใจติดต่อมาได้ที่ Facebook Fanpage ของเรากันได้เลยค่ะ