
รีไทนอลคืออะไร ประโยชน์และวิธีใช้สำหรับผิวหน้า
มิถุนายน 8, 2025
เคล็ดลับแต่งหน้า 5 นาทีสำหรับสาวออฟฟิศที่ต้องรีบไปทำงาน
มิถุนายน 15, 2025ผิวใสวิ้งๆ แบบสาวเกาหลีที่เราเห็นในซีรีส์ หรือในโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป เพราะเทคนิค Glass Skin เกาหลี สามารถทำได้จริงแม้อยู่ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น การดูแลผิวแบบเกาหลีไม่ได้หมายความว่าต้องใช้ผลิตภัณฑ์แพงๆ หรือขั้นตอนที่ซับซ้อน แต่เป็นการเข้าใจหลักการของการดูแลผิวที่ถูกต้อง และปรับใช้ให้เข้ากับสภาพอากาศของประเทศไทยด้วย
ความงามแบบเกาหลีที่เน้นผิวใสเด้ง เป็นเทรนด์ที่ผู้หญิงทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะมันสะท้อนถึงสุขภาพผิวที่ดีจากภายใน ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าหนาๆ เพื่อปกปิดปัญหาผิว เมื่อเราเข้าใจถึงเคล็ดลับการดูแลผิวแบบนี้ จะพบว่าสามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และสภาพแวดล้อมของเราค่ะ
หัวข้อเนื้อหา
ทำความเข้าใจ Glass Skin เกาหลี คืออะไร
Glass Skin หรือ ผิวใสอย่างเกาหลี เป็นคำที่ใช้เรียกผิวหน้าที่มีลักษณะใส เนียน เด้ง และดูมีสุขภาพดี เหมือนกับผิวของตุ๊กตา หรือเหมือนแก้วที่สะอาดใส ไม่มีรูขุมขนที่เห็นได้ชัด ไม่มีจุดด่างดำ และมีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม ผิวประเภทนี้จะสะท้อนแสงได้อย่างธรรมชาติ ทำให้ดูมีออร่าและสดใส
การมีผิวแบบ Glass Skin ไม่ได้หมายความว่าต้องมีผิวขาวซีด แต่เป็นผิวที่มีโทนสีที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผิวขาว ผิวสองสี หรือผิวคล้ำ ที่สำคัญคือความใสและความเด้งของผิว ที่บ่งบอกถึงสุขภาพผิวที่ดี การดูแลผิวเพื่อให้ได้ Glass Skin จึงต้องเริ่มจากการเสริมสร้างสุขภาพผิวจากภายใน ไม่ใช่แค่การใช้เครื่องสำอางเพื่อปกปิด

ผลประโยชน์ของการมีผิว Glass Skin นั้นมีมากกว่าที่คิด นอกจากจะทำให้มั่นใจในตัวเองแล้ว ยังประหยัดเวลาในการแต่งหน้า เพราะผิวที่มีสุขภาพดีต้องการเครื่องสำอางน้อยลง และที่สำคัญคือ การดูแลผิวอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันปัญหาผิวในระยะยาว ทำให้ผิวอายุน้อยกว่าวัยจริง
เคล็ดลับผิวเกาหลี ที่เหมาะกับอากาศร้อนชื้น
การนำเทคนิคสกินแคร์เกาหลีมาใช้ในประเทศไทย ต้องเข้าใจความแตกต่างของสภาพอากาศก่อน เกาหลีใต้มีอากาศที่แห้งกว่า และมีความชุ่มชื้นในอากาศต่ำกว่าเมืองไทย ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์และขั้นตอนการดูแลผิวจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
ขั้นตอนแรกที่ต้องปรับคือการทำความสะอาดผิว ในอากาศร้อนชื้น ผิวหน้าจะมีการหลั่งน้ำมันและเหงื่อมากกว่าปกติ การใช้เทคนิค Double Cleansing ของเกาหลี จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเริ่มจากการใช้คลีนซิ่งออยล์หรือมิเซลลาร์วอเตอร์ เพื่อละลายเมคอัพและสิ่งสกปรกที่ละลายในน้ำมัน จากนั้นจึงใช้โฟมคลีนซิ่งที่อ่อนโยน เพื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เหลืออยู่

การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในอากาศชื้น ควรเลือกเนื้อสีที่เบาบาง ซึมซาบง่าย และไม่อุดตันรูขุมขน เซรั่มที่มี Hyaluronic Acid หรือ Niacinamide จะเหมาะสมกับสภาพอากาศของเรา เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวมันเกินไป ส่วนครีมบำรุงควรเลือกแบบเจลหรือเนื้อสีที่เบา ไม่หนักหน่วง
การใช้ Essence และ Toner แบบเกาหลี ในอากาศร้อนชื้นควรเลือกสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Green Tea หรือ Centella Asiatica ที่ช่วยลดการอักเสบและสร้างความชุ่มชื้นให้ผิว การใช้หลายๆ ชั้นแต่ด้วยปริมาณน้อยๆ จะให้ผลดีกว่าการใช้ครั้งเดียวปริมาณมาก
ดูแลผิวหน้าฝน และความชุ่มชื้นสูง
ฤดูฝนในประเทศไทยเป็นช่วงที่ผิวหน้าต้องเผชิญกับความท้าทายพิเศษ ความชุ่มชื้นในอากาศที่สูง อาจทำให้เราคิดว่าผิวไม่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มเติม แต่ความจริงแล้ว การดูแลผิวหน้าฝน ต้องใส่ใจมากขึ้น เพราะผิวอาจขาดสมดุลได้ง่าย
การปรับขั้นตอนการดูแลผิวในฤดูฝน เริ่มจากการลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสีหนัก เปลี่ยนมาใช้เซรั่มหรือเอสเซนส์ที่ซึมซาบเร็ว การใช้ Clay mask หรือ BHA ในปริมาณน้อย จะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้ง ส่วนการใช้ครีมกันแดดยังคงจำเป็น แม้ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆมาก เพราะรังสี UV ยังคงสามารถทะลุผ่านเมฆได้

ปัญหาที่พบบ่อยในฤดูฝนคือการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียบนผิว เนื่องจากความชุ่มชื้นสูง การรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ดูแลผิว เช่น แปรง ฟองน้ำ หรือผ้าเช็ดหน้า จึงสำคัญมาก ควรล้างทำความสะอาดหลังใช้ทุกครั้ง และตากให้แห้งสนิท การเปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ ก็ช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดสิวได้
การดื่มน้ำและการรับประทานอาหารในฤดูฝน ยังคงส่งผลต่อสุขภาพผิว แม้ว่าอากาศจะชื้นแล้วก็ตาม การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย และการเลือกรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซี และแอนติออกซิแดนต์ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน
สกินแคร์อากาศร้อน แบบ Step by Step
การสร้างรูทีนสกินแคร์อากาศร้อน ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศไทย ต้องคำนึงถึงการสมดุลระหว่างการให้ความชุ่มชื้นและการควบคุมความมัน เริ่มต้นวันด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือคลีนซิ่งที่อ่อนโยน เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมตลอดคืน
ขั้นตอนตอนเช้าควรเน้นการป้องกันและเตรียมผิวสำหรับวันใหม่ ใช้โทนเนอร์ที่ช่วยปรับสมดุล pH ของผิว ตามด้วยเซรั่มที่มี Vitamin C หรือ Niacinamide เพื่อป้องกันความเสียหายจากมลภาวะและรังสีแดด จบด้วยครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30 และกันน้ำกันเหงื่อ
รูทีนตอนเย็นเป็นช่วงเวลาที่ผิวต้องการการฟื้นฟูและซ่อมแซม เริ่มด้วย Double Cleansing เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและครีมกันแดดอย่างหมดจด ใช้โทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวรับการบำรุง ตามด้วยเซรั่มที่มี Hyaluronic Acid หรือ Peptide เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

การใช้ผลิตภัณฑ์ Exfoliate ในอากาศร้อน ควรทำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เลือกใช้ BHA หรือ AHA ในความเข้มข้นต่ำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง หลังจากใช้กรดแล้วต้องใช้ครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด เพราะผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น การใช้มาส์กหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ด้วยมาส์กที่มีส่วนผสมของ Aloe Vera หรือ Hyaluronic Acid จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างความสดชื่นให้ผิว
ผิวใสเด้ง ด้วยการดูแลจากภายใน
การมีผิวใสเด้ง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว การดูแลจากภายในมีความสำคัญไม่แพ้กัน การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด่ ถั่วต่างๆ และผักใบเขียวเข้ม จะให้สารอาหารที่ผิวต้องการในการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งพื้นฐานที่หลายคนมักละเลย แม้ว่าอากาศจะชื้น แต่ร่างกายยังคงต้องการน้ำเพื่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ รวมถึงผิวหนัง การดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยขับสารพิษ และรักษาความชุ่มชื้นของผิวจากภายใน การเพิ่มเลมอนหรือแตงกวาในน้ำ จะช่วยเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่ผิวต้องการ

การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพ เป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับผิวสวย ในขณะนอนหลับ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนการเจริญเติบโต ที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย การนอนดึกหรือนอนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ เกิดความแก่ก่อนวัย และมีปัญหาสิวได้ง่าย การนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง และไปนอนก่อน 4 ทุ่ม จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ แต่ในอากาศร้อนชื้น ควรเลือกออกกำลังกายในที่ร่ม หรือในช่วงเวลาที่อากาศเย็น และต้องทำความสะอาดผิวหลังออกกำลังกายทันที เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
เทคนิคพิเศษสไตล์ K-beauty
การปรับใช้เทคนิค K-beauty ให้เหมาะสมกับผิวคนไทยและสภาพอากาศ มีเคล็ดลับพิเศษที่ไม่ค่ойแพงแต่ได้ผลดี การใช้น้ำแข็งนวดหน้าตอนเช้า จะช่วยกระชับรูขุมขน ลดการบวม และเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวดูกระจ่างใสตลอดวัน วิธีนี้เหมาะกับอากาศร้อนของเมืองไทยเป็นอย่างมาก
การทำ DIY mask จากวัตถุดิบที่หาได้ในบ้าน เช่น น้ำข้าวหรือแป้งข้าวโพด ผสมกับน้ำผึ้ง จะให้ผลในการบำรุงผิวไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ราคาแพง น้ำข้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินบี ที่ช่วยให้ผิวใสและลดการอักเสบ ส่วนน้ำผึ้งมีสมบัติต้านแบคทีเรียและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

เทคนิคการใช้ Facial Massage แบบเกาหลี ด้วยการนวดหน้าเป็นวงกลมเล็กๆ ด้วยปลายนิ้ว จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และทำให้ผลิตภัณฑ์บำรุงซึมซาบดีขึ้น การนวดจากกลางหน้าออกไปข้างนอก และจากล่างขึ้นบน จะช่วยยกกระชับผิวและลดการเกิดริ้วรอย
การใช้ Layering Technique แต่ปรับลดความหนาแน่น โดยใช้ผลิตภัณฑ์หลายชั้นแต่ในปริมาณน้อย จะให้ผลดีกว่าการใช้ครั้งเดียวปริมาณมาก เริ่มจากเนื้อสีเบาที่สุด ไปหาเนื้อสีหนักที่สุด และรอให้แต่ละชั้นซึมซาบก่อนใช้ชั้นถัดไป วิธีนี้ทำให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่โดยไม่อุดตันรูขุมขน
การดูแลผิวใสอากาศชื้น ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล ในช่วงฝน ควรเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มี Salicylic Acid เพื่อป้องกันสิว ส่วนในช่วงแล้ง ควรเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี Ceramide หรือ Hyaluronic Acid การปรับเปลี่ยนเป็นระยะจะช่วยให้ผิวได้รับการดูแลที่เหมาะสมตลอดปี

การเข้าใจและนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราสามารถมีผิวใส Glass Skin เกาหลีได้จริง แม้อยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย ที่สำคัญคือความอดทนและการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพราะผิวสวยไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่เป็นผลจากการดูแลที่ถูกต้องเป็นประจำทุกวันค่ะ
Mewon Korean Cosmetics ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าเวชสำอางโดยโรงงานคุณภาพชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้มายาวนานกว่า 10 ปี ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการจัดหาเครื่องสำอางและเวชสำอางทุกชนิดจากเกาหลี สนใจติดต่อมาได้ที่ Facebook Fanpage ของเรากันได้เลยค่ะ